ต่อมาสิ่งที่ต้องได้มาในมือ เป็นใบรับรองที่สำคัญรองลงมาจาก วุฒิปริญญาตรี นั้นคือ คะแนนผลสอบการวัดระดับภาษาอังกฤษ TOEIC
What is TOEIC?
มันย่อมาจาก Test Of English For International Communication คือการสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษสำหรับผู้ต้องการสมัครทำงาน โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Listening (การฟัง) และ Reading (การอ่าน) ซึ่งการใช้เวลาในสอบประมาณ 2 ชั่วโมง ข้อสอบจะเป็นแบบปรนัย (กา กา กา) โดยมีการฟัง 100 ข้อ คะแนนเต็ม 495 คะแนน การอ่าน 100 ข้อ คะแนนเต็ม 495 คะแนน รวม 200 ข้อ คะแนนเต็ม 990 คะแนน
สอบที่ไหน
ก็จะต้องไปสอบตามศูนย์การทดสอบ ซึ่งถ้าเป็นไปได้อยากจะแนะนำให้มาทดสอบกันที่่ศูนย์ใหญ่กรุงเทพ (ได้อารมณ์ดี) แต่จะสอบที่ศูนย์เชียงใหม่ หรือศูนย์อื่น ก็ตามแต่สะดวก
ผลสอบ
หลังจากสอบเสร็จ ก็รอรับผลสอบตามวันเวลาที่เจ้าหน้าที่แจ้ง เมื่อได้ผลสอบต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ชื่อ นามสกุล ข้อมูลส่วนตัวถูกต้องครบถ้วน ที่ขาดไม่ได้เลยคือ รูปของเราที่อยู่ในคะแนนสอบ ทำไมจึงบอกว่ารูปสำคัญ เพราะบางสายการบินหากผลคะแนนที่ยื่นใบนั้น ไม่มีรูปของเจ้าของผลคะแนนอยู่ จะถือว่าผลสอบโทอิคใบนั้นไม่สมบูรณ์ และไม่รับพิจารณา ในการคัดเลือก
ผลสอบคะแนน โทอิค |
ช่วงคะแนน อย่างน้อยสุดก็คือให้ผ่านเกณฑ์ที่ทางสายการบินกำหนด แต่อย่างที่ทราบกัน ยิ่งสูงก็ย่อมดีกว่าคะแนนน้อย
คำแนะนำเวลาสอบ
ทริคที่ต้องจำในใจเลย คือ อย่าสติหลุด โดยเฉพาะในช่วงการฟัง Listening นั้น ฟังทันก็ทัน ไม่ทันต้องล้างสมองฟังข้อต่อไป เคลียหูให้พร้อม เพราะหลุด 1 ข้อ ดีกว่าหลุดทั้งชุด อันนี้มีผลมาก
เวลาอ่าน จงอ่านแบบจับใจความสำคัญให้ได้ไวที่สุด เพื่อค้นหาคำตอบที่เหมาะสม
และที่สำคัญคือเตรียมตัวก่อนเข้าห้องสอบมาให้พร้อม ดื่มเครื่องดื่ม ..... (เครื่องดื่มดำๆ ที่ไม่อร่อยอะ แต่ประโยชน์ดี) หาวิตามิน บี ทานให้เยอะ บำรุงประสาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น